Posts Tagged ‘Premier League

12
พ.ย.
07

แมนยูขึ้นนำชั่วคราว, เชลซีสะดุด, หงส์คืนฟอร์ม

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็มีบอลมันส์ๆให้ดูกันเต็มอิ่มเช่นเคย ในยุคที่ฟุตบอลเป็นธุรกิจเต็มตัว มีผลประโยชน์มหาศาลจากการถ่ายทอดการแข่งขัน จึงมีการจัดคิวแข่งให้มีช่วงเวลาที่สามารถถ่ายทอดได้เยอะๆ โดนเริ่มตั้งแต่หัวค่ำ ทุ่มกว่าๆ เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้ายประมาณตีสาม ใครที่ติดเคเบิ้ลก็ชมกันเต็มคราบเลย

เกมในวันเสาร์ ลิเวอร์พูลที่พึ่งทำสถิติใหม่ในแชมป์เปี้ยนส์ลีกมา กำลังหึกเหิม แล้วก็เก็บชัยชนะเหนือฟูแล่มไปได้ 2-0

รูปเกมนั้นลิเวอร์พูลเหนือกว่าอย่างเก็นได้ชัด ฟูแล่มใช้การตั้งรับเหนียวแน่น แล้วให้มิดฟิลด์ช่วยไล่บอล แต่ว่าก็สู้มิดฟิลด์ของลิเวอร์พูลไม่ได้ โดนดาหน้าเข้าทำประตูอยู่ฝ่ายเดียว แต่ฟูแล่มก็ต้านไว้ได้ จนกระทั่งท้ายเกมโดนทีเด็ดของตอร์เรสเข้าไป เลยต้องแพ้ไปอย่างน่าเจ็บใจ

มากันที่วันอาทิตย์ เชลซีขนผู้เล่นฟูลทีมพบกับเอฟเวอร์ตัน ที่ได้ทิม เคฮิลล์ หายเจ็บกลับมาช่วยทีม โดยเชลซีนำไปก่อนจากดร็อกบาคนเดิม แล้วก็เร่งเครื่องจะบดเอาประตูที่สองให้ได้ แต่มาเจอลูกยิงทีเด็ดของเคฮิลล์ ที่กระโดดฟาดกลางอากาศเหมือนนักตะกร้อไทยไม่มีผิด บอลเข้าไปตุงตาข่าย คูดิชินี่หมดสิทธิ์เซฟ พอยิงเข้าไป เจ้าหมอนี่ก็วิ่งไปรัวหมัดแบบนักมวยทันที (วันเดียว เล่นไป 3 กีฬา :D) จบเกมเชลซีก็เลยเสมอไปแบบน่าเจ็บใจ 1-1

ทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขนผู้เล่นชุดใหญ่ต้อนรับการมาเยือนของแบล็กเบิร์น ขาดไปเพียงเวนย์ รูนี่ย์ ที่บาดเจ็บตอนฝึกซ้อม ต้องพักอย่างน้อย 1 เดือน นัดนี้แบล็กเบิร์นใช้จุดเด่นคือความดุดันในแดนกลางเข้ามาบดแมนยู แต่พอเล่นไปได้ซักพัก กลางของแมนยูก็เริ่มคุมเกมได้มากกว่า

แบล็กเบิร์นเกือบได้ประตูขึ้นนำแมนยูไปก่อน แต่ลูกยิงของแซมบ้า ชนสามเหลี่ยมไปเต็มๆ พอไๆม่ได้ประตูขึ้นนำ แบล็กเบิร์นก็โดนสำเร็จโทษโดยโรนัลโด้ ที่โหม่งลูกเตะมุมเข้าไป ถัดมาแค่นาทีเดียว โรนัลโด้ก็บวกลูกที่สองให้แมนยูนำห่างเป็น 2-0

แบล็กเบิร์นพยายามทวงประตูคืนแต่สถานการณ์ก็แย่หนักเข้าไปอีก เมื่อเดวิด ดันน์ มาโดนใบเหลืองที่สอง แบล็กเบิร์นที่เหลือ 10 คนเลยสู้แมนยูไม่ไหว จบเกมแมนยูชนะไป 2-0  ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว แต้มนำอาเซนอลอยู่ 3 แต็ม แต่แข่งมากกว่าถึง 2 นัด

คืนนี้อาเซนอลจะไปเยือนเรดดิ้ง ถ้าชนะห่าง 2 ลูก อาเซนอลจะกลับมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง

05
พ.ย.
07

อาเซนอล-แมนยู กินกันไม่ลง

ผ่านไปแล้วครับ กับฟุตบอลคู่หยุดโลกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อาเซนอลเปิดบ้านเจ๊ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปแบบสนุก 2-2

อาเซนอลเป็นฝ่ายครองเกมบุกเข้าหาแมนยู ต่อบอล ทำชิ่ง นักเตะทุกคนเคลื่อนไหวหาพื้นที่ตลอดเวลา จ่ายบอลสั้นๆ เล่นบอลกับพื้น บอลถูกถ่ายจากเท้าสู่เท้า เมื่อจ่ายบอลออกจากตัวไปแล้ว ก็วิ่งหาช่องเพื่อที่จะไปรับบอลจากเพื่อน เรียกได้ว่าเป็นศิลปะเลยครับ ดูแล้วเนียนตามาก

ส่วนแมนยูก็ลงไปตั้งรับคุมโซนอยู่หน้ากรอบเขตโทษ แนวรับเล่นอย่างรัดกุม คุมพื้นที่ของตัวเองอย่างเหนียวแน่น กองกลางไล่บอล บีบพื้นที่ ไม่ให้อาเซนอลจ่ายบอลได้สะดวก แล้วคอยอาศัยความจัดจ้านของแนวรุก รูนี่ย์-เตเวซ-โรนัลโด้ ใช้เกมโต้กลับทะลุทะลวงเข้าทำประตู

2 ประตูที่ได้มาของแมนยู แสดงให้เห็นถึงความเฉียบคม โอกาสมีไม่มาก แต่เมื่อมีโอกาสแล้ว สามารถเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูได้

2 ประตูที่ได้มาของอาเซนอล มาจากความมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ ทีมเวิร์กอันยอดเยี่ยมกดดันให้แนวรับแมนยูที่อาวุโสกว่าสติแตก เสียประตูตีเสมอถึง 2 ครั้ง 2 ครา

จุดอ่อนของอาเซนอลคือผู้รักษาประตู อัลมูเนียแสดงความตื่นเต้นให้เห็นอยู่หลายจังหวะ ประตูที่ 2 ที่เสียก็มาจากการตัดสินใจที่ไม่เด็ดขาดของเค้า

จุดอ่อนของแมนยูก็คือสมาธิ ช่วง 2 นาทีที่ทดเวลาบาดเจ็บ และทีมนำอยู่ 2-1 ชัยชนะอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายเสียสมาธิในเกม ปล่อยแต้มหลุดจากมือไป 2 แต้ม

สรุปแล้ว กินกันไม่ลงจริงๆครับ

ทั้ง 2 ทีม มีจุดเด่นที่คู่ต่อสู้ต่างยำเกรง แต่ก็ยังมีจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดอยู่

12 เมษายน 2551 อาเซนอลจะต้องเป็นฝ่ายบุกไปเยือนแมนยูที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดบ้าง ถึงวันนั้นถ้าทั้งคู่ยังสามารถคงความสม่ำเสมอไว้ได้อยู่ มันจะเป็นเกมตัดสินแชมป์ระดับ 6 ดาวเลยทีเดียวครับ

02
พ.ย.
07

โหมโรง อาเซนอล-แมนยู

EPL Mania
By RedHooligan

ศึกพรีเมียร์ลีกวันเสาร์นี้ เรียกได้ว่าเป็นคู่หยุดโลกก็ว่าได้ครับ เมื่อทีมที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดในชั่วโมงนี้ 2 ทีม โคจรมาพบกัน ถูกที่ถูกเวลา

ทั้ง 2 ทีมมี 26 คะแนนเท่ากัน ผลต่างประตูได้เสีย 15 ประตูเท่ากัน

อาเซนอล ทีมเด็กสร้างบ้านที่ใครหลายๆคนดูถูกไว้ในช่วงต้นฤดูกาล อย่าว่าแต่จะได้สัมผัสแชมป์เลย แค่เอาตัวรอดไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีกให้ได้ก็บุญโขแล้ว แต่พอผ่านไป 1 ใน 4 ของฤดูกาล เด็กๆของเวนเกอร์กลับผงาดนำเป็นจ่าฝูง ทำเอาใครหลายคนหน้าแตกยับไม่มีชิ้นดี (รวมทั้งผมด้วย :D)

ตัวจักรสำคัญของอาเซนอลชุดนี้คือพลังการขับเคลื่อนเกมในแดนกลางของ เชส ฟาเบรกัส นั่นเอง

มิดฟิลด์ทีมชาติสเปนคนนี้มีอนาคตไกลมากๆครับ การจ่ายบอลคม การเคลื่อนที่ หาตำแหน่ง ทำได้ดีมาก และที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจนในปีนี้ก็คือการยิงประตู โดยเจ้าหนูเชสยิงไปแล้ว 5 ประตู (เฉพาะในพรีเมียร์ลีก)

อีกคนนึงที่เล่นได้ดีมากในปีนี้ก็คือ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ (ทำไมถึงออกเสียงว่าคเล็บแทนที่จะเป็นฮเล็บ แฟนปืนช่วยบอกผมที)

ยังมีอีกหลายหน่อ ทั้งอเดบายอร์, ฟลามินี่ (หมอนี่ทำเอากัปตันทีมปีที่แล้วอย่างจิลแบร์โต้หลุดออกจากทีมไปเลย), ซาญ่า, กลิชี่

และที่อันตรายที่สุดในเวลานี้ก็คือ เด็กเหล่านี้เล่นเข้ากับระบบที่โครตกุนซือวางมาได้เป็นอย่างดี การต่อบอลจากเท้าสู่เท้า การเคลื่อนที่ และการเข้าทำประตู เรียกได้ว่า สุดยอดครับ

ทางด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่ออกอาการเป๋ในช่วงต้นฤดูกาล จนแฟนผีไม่กล้าออกไปไหน กลัวเจอเพื่อนทัก (ฮา) มาถึงตอนนี้ กลับเข้าสู่เส้นทางการลุ้นแชมป์เต็มตัวแล้วครับ

คู่กองหน้ามหาประลัย เวนย์ รูนี่ย์ และ คาลอส เตเวซ ที่ใครหลายๆคนไม่คิดว่า กองหน้าสไตล์เดียวกันจะสามารถเล่นด้วยกันได้ ทั้งคู่ชอบลงมาล้วงบอลในแดนตัวเอง ชอบฉีกตัวเองออกไปเล่นด้านข้างบ่อยๆ รวมถึงยังชอบเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้เหมือนกันอีกด้วย แต่ว่าเรื่องเหล่านี้ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของป๋าเฟอร์กี้แน่นอน ถึงตอนนี้ก็พิสูจน์ให้หลายคนเห็นแล้วว่า ทั้งคู่ไม่ได้เล่นเข้ากันได้เฉยๆเท่านั้น แต่ว่าเป็นคู่ที่เรียกได้ว่า โค-ตะ-ระ อันตราย ขนาด ลีโอเนล เมสซี่ ที่ตอนนี้ลากเลื้อยอยู่ที่บาเซโลน่า ยังออกมาชมข้ามประเทศ

จุดเด่นอีกข้อนึงของแมนยูก็คือเกมรับครับ ในปีนี้แมนยูไม่มีการเสริมทีมในเกมรับเลย นอกจากการได้ปิเก้กลับมาจากการยืมตัว นอกนั้นเป็นชุดเดิมๆจากเมื่อปีที่แล้ว (แถมยังเสียไฮน์เซ่ไปให้กับมาดริดอีกด้วย) แต่ในยามที่ทีมคับขัน กองหลังเกิดเจ็บขึ้นมาพร้อมๆกัน ก็ได้แจ้งเกิดดาวรุ่งดวงใหม่อย่างดาร์เรน ซิมป์สัน ขึ้นมาอีกคน โดยฤดูกาลนี้แมนยูพึ่งเสียประตูในลีกไปเพียง 4 ประตูเท่านั้น

นอกจากนี้นักเตะที่ทุ่มซื้อมาใหม่ทั้ง 3 คนอย่างฮาร์กรีฟ, นานี่ และ อันแดร์สัน ก็เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้แล้ว และกำลังเล่นดีขึ้นเรื่อยๆ

จากที่ผมสาธยายลากแม่น้ำทั้ง 5 มาทั้งหมด พูดได้คำเดียวครับว่า พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิ เวลาทุ่มสี่สิบห้า

ชมและเชียร์ให้สนุกครับ !!!

30
ต.ค.
07

เชลซีจมเรือใบครึ่งโหล, แมนยู 4-1, หงส์ปืน 1-1

พรีเมียร์ลีกอาทิตย์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นอาทิตย์ที่สนุกมากอาทิตย์นึงเลยครับ

เชลซีในยุคของอัฟราม แกรนท์ โดยมี เฮงค์ เทน ทาท เป็นผู้ช่วย เริ่มเล่นเกมรุกเอนเตอร์เทน ในแบบที่อับบราโมวิชอยากเห็นแล้ว โดยถล่มแมนเชสเตอร์ซิตี้ไปถึง 6-0 เล่นเอาอดีตนายกที่ไปนั่งชมเกมนี้ด้วยทำหน้าบอกบุญไม่รับเลยทีเดียว

ทางด้านแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่น้อยหน้า ถึงแม้ช่วงต้นเกมจะทำเอากองเชียร์นั่งไม่ติดก็ตาม แต่ด้วยการประสานงานของคู่กองหน้า ที่ตอนนี้ยกให้เป็นคู่กองหน้าอันดับหนึ่งของลีก ทำให้เอาชนะเดอะ โบ่โร่ ที่เคยเป็นของแสลงของแมนยูไปได้ 4-1 (ขอบอกว่าเตฟ-รูน สุดยอดจริงๆครับ)

มาถึงคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ ลิเวอร์พูลพบกับอาเซนอล จบเกมเสมอกันไป 1-1 แต่ว่ารูปเกมที่ออกมานั้น ผมว่าลิเวอร์พูลน่าจะแพ้ไปซัก 3-1 หลังจากที่ได้ประตูขึ้นนำจากเจอร์ราดแล้ว เกมของลิเวอร์พูลสู้อาเซนอลไม่ได้เลย โดนเด็กๆของเวนเกอร์ทำเกมรุกอยู่ข้างเดียว ส่วนลิเวอร์พูลต้องเป็นฝ่ายไล่บอลอย่างเดียว พอตัดบอลมาได้ เกมสวนกลับก็โดนอาเซนอลดักไว้ได้หมด ทำอะไรไม่ได้เลย

หลังจบเกมนี้ ลิเวอร์พูลบาดเจ็บอย่างหนัก ตอร์เรสและอลองโซ่ที่พึ่งหายกลับมาลงเล่นก็เกิดบาดเจ็บซ้ำขึ้นมาอีก แล้วมาสเคราโน่ก็บาดเจ็บเพิ่มขึ้นมาอีกคน

ปีนี้ใครเชียร์หงส์ก็ลุ้นกันเหนื่อยหน่อยครับ ผลงานทั้งในลีกและยุโรปย่ำแย่พอกันทั้งคู่

21
ต.ค.
07

หงส์จิกท็อฟฟี่, สิงห์-ปืน กินนิ่ม, ผีดุ

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาบรรดา 4 ทีมยักษ์ใหญ่ของอังกฤษต่างเก็บชัยชนะไปได้รวด

เริ่มมาคู่แรกเป็นเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ลิเวอร์พูลมีนักเตะติดทีมชาติเยอะ อาจเสียเปรียบเอฟเวอร์ตันนิดหน่อยตรงที่ความสด รูปเกมก็เล่นได้สนุกสมกับที่เป็นดาร์บี้แมตช์ เอฟเวอร์ตันที่ได้เสียงเชียร์ของแฟนๆก็สู้ได้สนุกมากๆ ดูแล้ว เกมนี้สูสีกันมาก สมควรที่จะแบ่งกันไปทีมละ 1 แต้ม แต่ว่าโชคชะตาเล่นตลก 2 ใบแดง และ 2 จุดโทษ ทำให้เดอะค็อปได้เฮไป ผมไม่อยากวิจารณ์ว่าเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ผิดถูกอย่างไร แต่ในฐานะผู้ที่เสพติดฟุตบอลคนนึง เกมนี้ถือว่าเป็นเกมที่ Classic เกมนึงเลยทีเดียว

การตัดสินใจพุ่งเซฟประตูอย่างสุดสวยของ ฟิล เนวิลล์ นั้น หลายคนอาจคิดว่าไม่น่าทำ แต่ผมกลับมองว่า นี่แหละคือความเป็น Professional ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด ถ้าเสียประตูนี้ไป คงยากที่จะกลับมาได้อีกแล้ว ถ้าไม่ทำอะไรซักอย่างบอลมันก็จะลอยเข้าประตูไป แต่ถ้าปัดก็เป็นลูกโทษ และคงต้องสังเวยการกระทำนี้ด้วยใบแดงแน่ๆ คิดๆดูแล้ว โดนใบแดงซะตอนนี้ทีมก็ไม่เสียเปรียบอะไรมาก เพราะมันใกล้จะหมดเวลาอยู่แล้ว อย่างน้อยๆก็ยังได้ลุ้นอีกเฮือก ว่าผู้รักษาประตูจะเซฟจุดโทษได้รึเปล่า แต่สุดท้าย การเดิมพันของฟิล ก็ถูกเจ้ามือกินเรียบ 😀

คู่ 3 ทุ่ม ทั้งอาเซนอลและเชลซี ต่างก็ชนะด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งคู่

อาเซนอลเกมเหนือกว่าเยอะ แต่กว่าจะต้อนเอาประตูได้ ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของทีมที่ได้ชื่อว่า เป็นทีมที่มีนักเตะเยาวชนที่ดีที่สุดในยุโรป เก็บชัยชนะ นั่งจ่าฝูงต่อไป

ส่วนเชลซีในยุคอาฟรัม แกรนท์ ฟอร์มเริ่มดีวันดีคืน ถึงแม้จะมีเรื่องยุ่งๆในค่าย แต่นักเตะมีความเป็นมีอาชีพสูง ตัดเรื่องส่วนตัวและทีมออกจากกัน เก็บชัยชนะได้อีกครั้ง

คู่สุดท้ายของวัน แมนยูไปเยือนอัสตัน วิลล่า เกมนี้เราได้เห็นการประสานงานอันสุดยอดของคู่ศูนย์หน้า รูน-เตฟ ที่ตอนนี้เริ่มจูนกันติดแล้ว เลยสอนบอลให้วิลล่าไปเบาะๆ 4-1 แต่ละประตูเป็นการเข้าทำที่สวยงามทั้งนั้น

09
ต.ค.
07

Premier League Week 9

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นเกมที่ 9 ของพรีเมียร์ลีก 2007-2008 (มี 6 ทีม ที่พึ่งแข่งไป 8 นัด) จ่าฝูงยังคงเป็นเป็นอาเซนอลเหมือนเดิม นำแมนยูอยู่ 2 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่าอีก 1 นัด โดยเกมที่ 10 จะกลับมาเตะกันอีกครั้งก็วันที่ 20 ตุลา นู่นเลย เพราะต้องเบรกให้กับทีมชาติ

ต้องขอชมเชยเด็กๆของอาเซนอลชุดนี้จริงๆ ถ้าเล่นได้อย่างนี้ไปเรื่อยๆก็แชมป์แน่ๆ แต่ฤดูกาลยังอีกยาวไกล แชมป์ลีกต้องวัดกันที่ความคงเส้นคงวา ประมาทไม่ได้เลยกับความเคี่ยวของแมนยู และ เชลซี ที่นักเตะมีประสบการณ์สูงกว่ามาก

ที่น่าเป็นห่วงเห็นจะมีอยู่ 2 ทีม คือ ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ (สัตว์ปีกทั้งคู่)

สเปอร์นั้น มีบุญแต่กรรมบัง จ่อจะชนะอย่างนี้มาหลายนัดแล้ว แต่ก็มีเหตุให้ชัยชนะต้องหลุดมืออยู่ทุกครั้งไป ไม่ต้องโทษใครอื่น แนวรับเปื่อยยุ่ยมากๆ แล้วผู้รักษาประตูอย่าง พอล โรบินสัน ก็ดันมาเฟอะฟะได้ถูกเวลาอีก กองหน้ายิงไปเท่าไหร่ กองหลังเสียคืนเท่านั้น งานนี้สงสัยมาร์ติน โยล จะไม่รอดแน่ๆ

ส่วนลิเวอร์พูล ถึงแม้อันดับในตารางจะยังไม่น่าเกลียด แต่ว่าเดอะค็อปไม่ปลื้ม ช่วงหลังๆเอาอีกแล้ว หงษ์แถวบ้านผมเริ่มบ่นเรื่องโรเตชั่นอีกแล้ว ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าเสียงบ่นเดอะค็อปเมืองไทย จะไปเข้าหูราฟามั่งมั้ยเนี่ย 😀




พฤษภาคม 2024
จ. อ. พ. พฤ. ศ. ส. อา.
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  

Categories

RSS Soccer News

  • มีความผิดพลาดเกิดขึ้น feed อาจใช้งานไม่ได้ชั่วคราว ลองใหม่อีกครั้งภายหลัง